เมื่อวันพุธ ที่ 18 มกราคม 2566 รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นายครองศักดิ์ สงรักษา เป็นประธานพิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตร การเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ระหว่างวันที่ 18 – 20 มกราคม 2566 ณ ห้องถ่ายทอดออนไลน์ ชั้น 3 อาคารส่งเสริมการเกษตรเบญจสิริกิติ์ กรมส่งเสริมการเกษตร บุคคลเป้าหมายประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานด้านเผยแพร่และประชาสัมพันธ์จากสำนัก/กองส่วนกลาง สำนักงานเกษตรพื้นที่กรุงเทพมหานคร สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 1 – 6 สำนักงานเกษตรจังหวัด ศูนย์ปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานผลิตสื่อและงานประชาสัมพันธ์ส่วนกลาง รวมจำนวน 160 คน โดยท่านประธานในพิธีได้ให้ข้อคิดแก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ดังนี้
“การประชาสัมพันธ์” public relations (PR) ดร.เสรี วงษ์มณฑา ได้ให้ความหมายการประชาสัมพันธ์ว่า การมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับประชาชน การติดต่อสื่อสาร เพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันถูกต้องต่อกัน ความพยายามที่มีการวางแผนและเป็นการกระทำที่ต่อเนื่อง ในอันที่จะมีอิทธิพลเหนือความคิดจิตใจของประชาชน กลุ่มเป้าหมายโดยการกระทำสิ่งที่ดีมีคุณค่าให้กับสังคม เพื่อให้ประชาชนเหล่านี้เกิดทัศนคติที่ดีต่อหน่วยงานกิจกรรมและบริการ หรือสินค้าของหน่วยงานนี้ และเพื่อที่จะได้รับการสนับสนุนและร่วมมือที่ดีจากประชาชนเหล่านี้ในระยะยาว จากความหมายของการประชาสัมพันธ์ สรุปเป็นแนวทางการประชาสัมพันธ์ โดยแบ่งออก 4 ประเด็นดังนี้
1. มีการวางแผนการประชาสัมพันธ์ไม่ใช่เป็นการกระทำที่จะทำเมื่อมีงานเกิดขึ้นแล้วจึงต้องทำ หรือจะกระทำการประชาสัมพันธ์เมื่อมีความต้องการจากประชาชนกลุ่มเป้าหมายหรือผู้บังคับบัญชาสั่งให้ทำแต่ที่ถูกนั้นการประชาสัมพันธ์เป็นการทำงานที่มีแผนเตรียมไว้อย่างรอบคอบตรงตามจุดมุ่งหมายที่ได้ตั้งไว้อย่างชัดเจน
2. เป็นการทำงานที่ต่อเนื่องและหวังผลระยะยาว การประชาสัมพันธ์นั้นจะต้องเป็นการกระทำที่ต่อเนื่องไม่มีวันจบสิ้น ทั้งนี้เพราะประชาชนจำเป็นต้องได้รับข้อมูลที่ถูกต้องอยู่อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง การขาดการรับรู้เกี่ยวกับข่าวสารและกิจกรรมนาน ๆ จะเป็นสาเหตุของการเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและจะเป็นบ่อเกิดของความรู้สึกที่ไม่ดี
3. มีอิทธิพลต่อความคิดและทัศนคติจุดมุ่งหมายของการประชาสัมพันธ์ คือ การโน้มน้าวจิตใจของประชาชนกลุ่มเป้าหมายให้มีทัศนคติที่ดีต่อหน่วยงาน กิจกรรมและการบริการหรือสินค้าของหน่วยงาน
4. มีความสัมพันธ์กับประชาชนถ้าหากไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานกับประชาชนแล้วก็จะไม่มีการประชาสัมพันธ์เกิดขึ้นได้ ความสัมพันธ์นี้จะเป็นความเข้าใจที่ถูกต้องและมีคุณค่าแก่ประชาชน และขณะเดียวกันหน่วยงานก็ยินดีที่จะรับฟังความคิดเห็น และให้ความสำคัญต่อปฏิกิริยาโต้ตอบของประชาชนด้วย
สุดท้ายขอขอบคุณวิทยากรและทีมงานผู้จัด ขอบคุณผู้เข้ารับการฝึกอบรม และหวังว่าทุกท่านจะเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ในการอบรมครั้งนี้ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข่าวสารสู่พี่น้องเกษตรกรให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป
